หาดแหลมศาลา ถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์

หาดแหลมศาลา ถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

ไม่ว่าจะนั่งเรือเพลินๆ หรือเดินข้ามเขา(นั่งเรือราว 5 นาที เดินอาจใช้เวลาร่วมชั่วโมง) ในที่สุดเราก็มาถึงหาดแหลมศาลา หาดทรายยาวบรรยากาศดีที่แวดล้อมไปด้วยทิวต้นสนเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่าง ยิ่ง ที่หาดแหลมศาลาแห่งนี้ มีบ้านพักของทางอุทยานฯ เปิดให้บริการอยู่ หากสนใจก็สามารถติดต่อจองได้จากสำนักงานที่กรุงเทพฯ หรือ ทางอินเตอร์เน็ต เป็นบ้านไม้ที่ให้บรรยากาศของทะเลได้ดียิ่ง

บริเวณ เดียวกันนั้นมีร้านค้าจำหน่ายอาหารและขนมเครื่องดื่มเปิดให้บริการ ซึ่งราคาอาจจะสูงขึ้นอีกนิดเนื่องด้วยต้นทุนทางด้านการขนส่ง อันเป็นธรรมดาของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล (ที่เรารู้ๆ กัน)หาดแหลมศาลา เป็นหาดที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเหมาะแก่การถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ไม่สามารถถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินได้ ดังนั้น นักถ่ายภาพควรต้องเลือกช่วงเวลาให้ดีช่วงที่อันตรายต่อการเล่น เพราะเป็นช่วงที่มีคลื่นใต้น้ำ (Rip Current) ที่ค่อนข้างจะอันตราย โดยเราสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน เพราะได้มีการปักธงสีแดงในบริเวณที่ห้ามเล่น พร้อมทั้งมีป้ายเตือนถึงเรื่องของคลื่นใต้น้ำเอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนบริเวณที่สามารถเล่นน้ำได้จะเป็นธงสีขาว

สำหรับ ทางเดินต่อไปยังถ้ำพระยานครนั้นจะอยู่ทางด้านหลัง ดูจากป้ายบอกทางที่ทำไว้อย่างดีก็ได้ เพราะมองเห็นง่ายเดินสบายๆ ใต้เงาไม้ไปไม่นานก็จะถึงเส้นทางของจริง...... ทำไมถึงเรียกว่าเส้นทางของจริง? เพราะตัวถ้ำพระยานครนั้นตั้งอยู่บนภูเขาสูง ทางอุทยานฯจึงได้จัดทำทางเดินขึ้นซึ่งเป็นหินเรียงกันให้เป็นขั้นบันไดเพื่อ ความสะดวกในการเดินขึ้นของนักท่องเที่ยว

430 เมตร ก็ดูไม่น่าจะไกลสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเดินขึ้นไปจริงๆแล้วอาจจะรู้สึกราวกับสิบกิโลฯ เพราะเป็นการเดินไต่ขึ้นที่สูงสู้กับแรงโน้มถ่วงตลอดเวลา และที่สำคัญก็คือก้อนหินในแต่ละก้าวของที่นี่เป็นหินที่มีความแหลมคมสามารถ ทำอันตรายได้หากเดินพลาด ส่วนที่ถูกเดินเหยียบมากๆ ก็จะกลายเป็นหินที่มีความลื่นไป ดังนั้นการเดินขึ้นที่นี่ควรจะใช้รองเท้าที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยให้ มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรองเท้าหุ้มข้อได้จะยิ่งดีมาก

ตลอด ช่วงเส้นทางการเดินอันแสนเหนื่อย เราพบว่าปัญหาส่วนหนึ่งก็คือทางเดินที่มีลักษณะเป็นขั้นบันไดที่มีช่วงก้าว และยกขาใกล้เคียงกันเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อสูงมากกว่าการปีนเขาที่ ก้าวสั้นยาวไม่เท่ากัน ซึ่งเราก็เข้าใจได้ทันทีว่า เหตุใดตรงทางขึ้นจึงมีป้ายบอกเอาไว้ว่าให้พิจารณาสุขภาพของตัวเองก่อนขึ้น

ก่อน ขึ้นถึงด้านบน จะมีจุดแวะพักชมวิวที่มองเห็นผืนทะเลด้านหน้าหาดแหลมศาลา ก็ยังเป็นจุดที่ใช้พักคลายเหนื่อยได้เป็นอย่างดีซึ่งเราขอแนะนำให้คุณหยุด พักเสียก่อน จากนั้นก็จะเหลืออีกช่วงร้อยเมตรที่เป็นทางขึ้นและอีกร้อยเมตรสำหรับช่วงทาง ลง จากจุดนี้แข็งใจอีกสักหน่อย เส้นทางก็จะเริ่มสบายขึ้นแล้ว ไม่นานนักก็จะเดินลงสู่ปากถ้ำซึ่งยิ่งใหญ่อลังการมาก

หาก ใครเคยไปเที่ยว “ถ้ำบริจินดา” ที่ดอยอินทนนท์มาแล้วจะรู้สึกว่าทางลงสู่ถ้ำทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมาก เนื่องด้วยเป็นถ้ำที่จมอยู่ในช่องหุบเขาขนาดใหญ่เราต้องเดินลงสู่เบื้องล่าง เพื่อเข้าสู่ตัวถ้ำยังไม่ถึงตัวถ้ำดี เราก็จะได้พบกับ“น้ำตกแห้ง” ที่เป็นหินย้อยแบบติดกับผนังที่ลดหลั่นกันลงมา ดูคล้ายกับสายน้ำตกแต่ไม่มีน้ำ จึงได้ชื่อเช่นนี้ ต่อมาเป็น “สะพานมรณะ”ที่อยู่ด้านบนของเพดานถ้ำ มันคือเพดานถ้ำที่ถล่มพังลงมา แต่ยังเหลือบางส่วนที่เชื่อมกันลักษณะคล้ายสะพาน จึงได้ชื่อเช่นนี้

....ด้าน ในมีจุดที่เที่ยวชมได้อยู่หลายจุดแต่ที่เป็นส่วนสำคัญก็คือพลับพลาพระที่ นั่ง "คูหาคฤหาสน์” ซึ่งจุดนี้ต้องบอกกันสำหรับคนถ่ายภาพว่าควรมาถึงก่อนเที่ยงวัน เพราะแสงจากปล่องด้านบนจะเปลี่ยนทิศทางไปเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากเที่ยงวันไปแล้วอาจจะได้มุมแสงสวยไม่เท่าช่วงเช้า

นอก จากพระที่นั่งฯ แล้ว ยังมีจุดอื่นๆ ให้ชมและถ่ายภาพที่น่าสนใจอีกพอสมควรซึ่งเราลงความเห็นว่าคุ้มแก่การเหนื่อย ยากปีนขึ้นมา เฉพาะหินงอกหินย้อยจำนวนมากก็เพลินได้ทั้งวันแล้ว แต่ที่สำคัญก็คือ อย่าแบกสิ่งของที่ไม่สำคัญขึ้นมาเพราะทางมันเหนื่อยจริงๆ

“พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” อายุเกินกว่าร้อยปี ตัวแบบที่คนถ่ายภาพหลายคนอยากมาเห็นด้วยตาตนเอง

 

ที่มา : tiewpakklang.com