แดนซ์, โยก, โดด มันส์ สะใจ 2 วันเต็มอิ่ม กับ Hostess Club Bangkok เทศกาลดนตรีอินดี้ระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทย

บันเทิง
แดนซ์, โยก, โดด มันส์ สะใจ 2 วันเต็มอิ่ม กับ Hostess Club Bangkok เทศกาลดนตรีอินดี้ระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทย

ถือเป็นเทศกาลดนตรีอินดี้ระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทยเลยก็ว่าได้สำหรับ Hostess Club Bangkok ซึ่งจริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากค่ายเพลงอิสระของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Hostess ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้จัดจำหน่ายผลงานของศิลปินอินดี้ดังๆ มากมายแล้ว


ถือเป็นเทศกาลดนตรีอินดี้ระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทยเลยก็ว่าได้สำหรับ Hostess Club Bangkok ซึ่งจริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากค่ายเพลงอิสระของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Hostess ที่นอกจากจะเป็นผู้จัดจำหน่ายผลงานของศิลปินอินดี้ดังๆ มากมายแล้ว ยังเป็นโต้โผในการนำวงอินดี้เจ๋งๆ มาแสดงคอนเสิร์ตภายใต้ชื่อเทศกาล Hostess Club Weekender ซึ่งตระเวนจัดมาแล้วเกือบทั่วเอเชียทั้ง ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, สิงค์โปร์ อีกด้วย  

ซึ่งนี่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับคอเพลงอินดี้ในบ้านเรา เพราะเอาเข้าจริงมีแฟนเพลงอินดี้ในเมืองไทยจำนวนไม่น้อยที่เฝ้ารอวงที่พวกเขารักมาขึ้นคอนเสิร์ตในเมืองไทย แต่นานๆ ฝันจะเป็นจริงสักทีหนึ่ง ดังนั้น Hostess Club Bangkok จึงน่าจะเป็นเทศกาลดนตรีที่ชาวอินดี้ทั้งหมู่มวลได้มารวมตัวกัน และก็เป็นไปตามความคาดหมายจริงๆ เพราะ เมืองไทย GMM Live House ชั้น 8 เซ็นทรัล เวิล์ด ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน เริ่มคึกคัก คราคร่ำไปด้วยสาวกอินดี้ตั้งแต่ช่วงเย็นๆ โดยไลน์อัพที่จะประเดิมขึ้นเวทีใน Hostess Club Bangkok วันแรก (พฤหัสที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558) ก็คือ Tune-Yards, Caribou และ Belle & Sebastian ซึ่งเมื่อดูจากวงที่จะขึ้นเล่นในวันนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่า ผู้ชมวันนี้น่าจะได้ ส่ายสะโพก โยกย้าย แดนซ์ กันแบบสุดเหวี่ยงแน่ๆ



Tune-Yards

มาเริ่มกันเลยที่วงแรก Tune-Yards ที่ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับดนตรีจังหวะสุดคึกคัก ชวนให้คนดูขยับแข้ง ขยับขา กับเพลงในอัลบั้มชุดใหม่ไล่ไปตั้งแต่ Sink O, Real Thing, Wait for a Minute และมาพีคสุดๆ กับซิงเกิ้ลแจ้งเกิดที่ทำให้แฟนๆ รู้จัก Tune-Yards นั่นก็คือ Gangsta ตามติดๆ ด้วย Powa อีกเพลงที่แฟนๆ คุ้นเคยกันดี ส่วนเพลงปิดท้ายก็เป็นไปตามคาดนั่นก็คือ Water Fountain เพลงเอกจากอัลบั้มชุดล่าสุด ก่อนที่สาว เมอร์ริล และทีมงาน จะโบกไม้ โบกมือ ขอบคุณแฟนๆ เรียกเสียงปรบมือเป็นการร่ำลา


Caribou

วงถัดไปของค่ำคืนนี้ก็คือ Caribou ที่ต้องบอกกันเลยว่าเป็นโชว์ที่ มันส์ ที่สุดในคืนนี้เลยทีเดียว (ขอบอกว่าโดยส่วนตัวนี่เป็นโชว์ที่ มันส์ ที่สุดของเทศกาลเลยด้วยซ้ำ!) เพราะนอกจากเพลงที่ทำเอาแฟนๆ แดนซ์ กัน กระจาย แล้ว แสง สี อันสวยสดงดงามบนเวที ก็ถูกเซ็ทให้เข้ากับดนตรีอิเล็คโทรที่มีรสนิยมของ Caribou ได้ดีซะเหลือเกิน พูดง่ายๆ ว่า โชว์ของ Caribou ในค่ำคืนนี้ "ดีงาม" แทบทุกส่วน และนั่นคือส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชม enjoy กับโชว์ของ Caribou เป็นอย่างมาก โดยเพลงที่พี่แดน และผองเพื่อน นำมาฝากขาแดนซ์เมืองไทยเป็นเพลงจากงานสองชุดหลังทั้ง Our Love, Found Out, All I Ever Need, Jamelia, Can't Do Without You, Sun ซึ่งหลังคอนเสิร์ตจบ ดูเหมือนว่า Caribou จะประทับใจแฟนเพลงชาวไทยเป็นอย่างมาก ถึงขนาดเอารูปบรรยากาศคอนเสิร์ตในวันนี้ไปโพสต์ขอบคุณในเฟซบุ๊คของวงเลยทีเดียว


Belle and Sebastian

และแล้วก็มาถึงวง เฮดไลน์ ของค่ำคืนนี้นั่นก็คือ Belle and Sebastian ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะบารมีของวงอินดี้พ็อพจากสก็อตแลนด์วงนี้แหละ ที่ทำให้สาวกอินดี้มารวมตัวกันแบบอุ่นหนาฝาคั่งได้มากถึงเพียงนี้ ซึ่งป๋า สจ๊วร์ต และสมัครพรรคพวก ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง ขนเอาเพลงทั้งเก่า ทั้งใหม่จากอัลบั้มทุกชุดมาบรรเลงให้ฟังกันแบบเต็มอิ่มทั้ง Nobody's Empire, I'm a Cuckoo, If She Wants Me, Pizza, New York Catcher, Sukie in the Graveyard, The Boy With The Arab Strap, Judy and The Dream of Horses เรียกได้ว่างานนี้แฟนได้ดื่มด่ำกับเพลงพ็อพทำนองหวานๆ โยกยักไปกับจังหวะสนุกๆ กันแบบสาแก่ใจเลยทีเดียว หลังจากที่เฝ้ารอให้พวกเขามาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเรามานาน

ข้ามมากันที่วันที่สองของเทศกาล Hostess Club Bangkok ด้วยไลน์อัพที่จะขึ้นเล่นวันนี้ (ศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558) อันได้แก่ Real Estate, Temples และ Thurston Moore Band ดูแล้วสาวกอินดี้ที่มาร่วมงานในวันนี้ หลักๆ แล้วน่าจะเป็น ขาร็อค กันซะส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยแนวดนตรีของวงที่ขึ้นเล่นวันนี้ จะต้องทำให้คนดูได้ โดด ได้ โยกหัว กันแบบเต็มคราบแน่นอน



Real Estate

ประเดิมวอร์มอัพกับวงอินดี้/เซิร์ฟ-พ็อพ อย่าง Real Estate ที่แม้เทียบกันแล้ว ซาวน์ดดนตรีจะไม่หนักหน่วงเท่ากับอีก 2 วงทีเหลือ แต่ด้วยท่วงทำนองอันเพราะพริ้ง และจังหวะจะโคนอันสนุกสนาน ก็ทำให้คนดูพอโยกตามเพลงกันได้ไม่ยาก แต่ส่วนตัวแล้ว นอกเหนือจาก Caribou ที่อยากดูมากที่สุด Real Estate ถือเป็นอีกหนึ่งวงโปรดที่ตั้งใจมาดูในงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถึงแม้จะมีเพลงที่อยากฟังตกหล่นไปจาก setlist ในวันนี้บ้าง (ที่ขาดไปก็คือ How Might I Live และ All The Same) แต่โดยรวมถือว่าได้ฟังเพลงเด่นๆ ทั้งเก่า และใหม่จาก Real Estate เกือบครบ ไล่ไปตั้งแต่ Had to Hear, Green Aisles, Past Lives, Crime, Kinder Blumen, Easy, Talking Backwards, It's Real


Temples

 
คิวถัดไปที่จะขึ้นเวทีต่อก็คือ Temples วงไซคีเดลิคร็อคหน้าใหม่มาแร งที่ขนเอาเพลงจากอัลบั้มชุดแรก Sun Structures มาประเคนความ มันส์ ให้กับคนดูแบบสุดเหวี่ยง หลายๆ เพลงถึงขนาดทำให้คนดูกระโดดตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียงเลยทีเดียวทั้ง ไตเติ้ลแทรค Sun Structures, A Question Isn't Answered, Colours To Life, The Golden Throne, Keep In The Dark, Mesmerise, Shelter Song โดยเท่าที่สังเกตดู Temples เป็นวงที่เรียกเสียงเฮ เสียงกรี๊ด จากคนดูได้มากที่สุดในงาน ทั้งนี้คงเป็นเพราะ ลุค ของวง (โดยเฉพาะ เจมส์ นักร้องนำ) ที่ดูดี กว่าวงอื่นๆ นั่นเอง


The Thurston Moore Band

 
และวงที่จะมาปิดท้ายคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายเทศกาล Hostess Club Bangkok ด้วยก็คือ The Thurston Moore Band อัลเทอร์ฯ ร็อคระดับตำนาน อดีตมือกีตาร์ของ Sonic Youth ขึ้นมาปุ๊บ ป๋า เทิร์สตัน ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดการบรรเลง Forever More เป็นการประเดิม (ถ้าจำไม่ผิดหลังจบเพลงนี้ ป๋า เทิร์นสตัน กล่าวทักทายแฟนๆ พร้อมบอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่กรุงเทพอีกครั้ง หลังจากเคยมาแล้วเมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งถ้าป๋าไม่จำผิด ก็น่าจะมีคนให้ข้อมูลผิดๆ กับป๋าไป เพราะจริงๆ แล้ว แกเคยมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยพร้อมกับวง Sonic Youth ในปี 1996 ซึ่งนั่นมันเมื่อ 19 ปีที่แล้ว) ตามติดมาด้วยงานจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด 5 เพลงรวด ไล่ไปตั้งแต่ Speak to the Wild, Germs Burn, Detonation, The Best Day และตบท้ายด้วย Grace Lake แต่กลิ่นไอความมันส์ยังไม่ทันจางหาย เทิร์นสตัน มัวร์ พร้อมวงของเขาก็เดินหายเข้าไปหลังเวที เดือนร้อนให้แฟนๆ ต้องช่วยกันส่งเสียงเรียกให้กลับออกมา และก็สำเร็จ เมื่อ ป๋า เทิร์นสตัน กลับออกมาพร้อมพาเราย้อนกลับไปฟังเพลงจากงานเดี่ยวชุดแรก Psychic Hearts เป็นการปิดท้ายอีก 2 เพลงนั่นคือ Pretty Bad และ Ono Soul

เรียกว่าได้ “แดนซ์”, ได้ “โยก”, ได้ “โดด” กันแบบ มันส์ สะใจ 2 วันเต็มอิ่ม กับเทศกาล Hostess Club Bangkok ที่ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในฐานะของคนดู (ที่มีสายเลือดอินดี้เข้มข้น) ต้องขอชื่นชม และขอบคุณ ผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน โดยเฉพาะทาง ผู้จัดที่ "กล้า" ทำให้เทศกาลดนตรีเจ๋งๆ แบบนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีวงอินดี้เจ่งๆ มาเล่นในบ้านเราบ่อยๆ รวมถึงมีจะมีเทศกาลดนตรีอินดี้ดีๆ แบบนี้ เกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้...


เรื่องโดย...โยโนะสุเกะ