Vampire Weekend Live in Bangkok โดดกันยับ ดิ้นกันแหลก มันส์กันสุดเหวี่ยง สาสมใจสาวกอินดี้!Vampire Weekend Live in Bangkok โดดกันยับ ดิ้นกันแหลก มันส์กันสุดเหวี่ยง สาสมใจสาวกอินดี้!

บันเทิง

และแล้วก็ถึง วันดีเดย์ ที่เหล่าคอเพลงอินดี้ทั้งหมู่มวลจะได้มารวมตัวกันอีกครั้ง เพราะค่ำคืนนี้เรามีนัดกับ Vampire Weekend วงดนตรีสุดแนวจากนิวยอร์ค ที่เดินทางมาทัวร์เอเชียโดยประเดิมเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยเป็นที่แรก

          และแล้วก็ถึง วันดีเดย์ ที่เหล่าคอเพลงอินดี้ทั้งหมู่มวลจะได้มารวมตัวกันอีกครั้ง เพราะค่ำคืนนี้เรามีนัดกับ Vampire Weekend วงดนตรีสุดแนวจากนิวยอร์ค ที่เดินทางมาทัวร์เอเชียโดยประเดิมเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยเป็นที่แรก...

          บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เมื่อแฟนๆ ฝ่ารถติดทยอยเดินทางมาถึงสถานที่แสดงซึ่งก็คือ ธันเดอร์โดม มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อดูจากจำนวนของคนที่มาคอนเสิร์ตในคืนนี้ต้องบอกว่า เยอะเกินคาด เรียกว่าน่าชื่นใจแทน Vampire Weekend จริงๆ เพราะไม่คิดเหมือนกันว่า จะมีแฟน Vampire Weekend ในบ้านเราเยอะขนาดนี้

          หลังจากที่ 25 Hours วงหน้าใหม่มาแรงสัญชาติไทย ขึ้นโชว์เป็นการวอร์มอัพ ความมันส์ ให้แก่ผู้ชมเป็นที่เรียบร้อย แฟนเพลงของ Vampire Weekend ก็เริ่มตะโกนเรียกชื่อวงโปรดของพวกเขาให้ออกมาหน้าเวทีไวๆ และความพยายามของพวกเขาก็ไม่เสียเปล่า เมื่อแสงไฟใน ธันเดอร์โดม ดับลง สมาชิกวง Vampire Weekend ก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวที โดยเป็น คริส ไบโอ (มือเบส) ที่เดินนำออกมา ตามติดมาด้วย เอซร่า โคนิค (ร้องนำ/กีตาร์), รอสแทม แบ๊ทแมงลิจ (คีย์บอร์ด) และ คริส ทอมสัน (กลอง) ซึ่งนี่เป็นสัญญาณว่า วินาทีที่ทุกคนรอคอยได้มาถึงแล้ว!!!

          และพวกเขาก็เริ่มต้นประเคน ความมันส์ ให้กับแฟนๆ ด้วยเพลง Holiday ตามมาติดๆ ด้วยเพลงที่น่ารักทั้งเนื้อเพลงและดนตรีอย่าง White Sky หลังจบเพลงนี้ เอซร่า นักร้องนำกล่าวทักทายคนดูเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ และออดอ้อนแฟนๆ ด้วยการขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ ทำเอาคนดูเฮกันดังสนั่น จากนั้น Vampire Weekend ก็เอาใจแฟนๆ ด้วยการกลับไปเล่นงานจากอัลบั้มชุดแรกทีเดียว 4 เพลงรวด ไล่ไปตั้งแต่ Cape Cod Kwassa Kwassa ที่ผู้ชมต่างพากัน โยกย้าย ส่ายเอว ไปตามท่วงทำนองสุด ฮิป กันอย่างสนุกสนาน, I Stand Corrected เพลงจังหวะกลางๆ ที่แฟนยังพอโยกตามกันได้, M79 เพลงบรรยากาศชิลล์ๆ ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งเพลงที่แฟนๆ รอฟังกันแบบสดๆ ในค่ำคืนนี้ ต่อกันด้วย Bryn เพลงที่ลดระดับความคึกคักลงมานิดนึงให้แฟนได้พักบ้างอะไรบ้าง ก่อนที่พวกเขาจะทำให้คนดูยืนอยู่ไม่สุขอีกครั้งกับเพลงจากอัลบั้มล่าสุดอย่าง California English ต่อด้วย Cousins และเบรกอารมณ์กันเล็กน้อยด้วยเพลง Run

          หลังจบเพลงนี้ เอซร่า พูดกับคนดูว่า เพลงต่อไปที่จะเล่นเหมาะสำหรับการแดนซ์สุดๆ บอกใบ้มาซะขนาดนี้ จะเป็นเพลงไหนไปได้อีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ A-Punk ซึ่งช่วงนี้ต้องขอบอกว่า คนดู โดดดิ้น กันแบบสุดเหวี่ยง (ระหว่างนั้นเหลือบไปเห็นลีลาโขยกเบสของนาย คริส ที่บอกได้คำเดียวว่า สะเด่า! ได้ใจจริงๆ) แถมทั้ง คนดู คนเล่น ยังช่วยกันแหกปากตะโกน “โอ้ๆๆ เอ้ๆๆ” ดังสะท้านธันดอร์โดมอีกด้วย เรียกว่า เพลงนี้เป็นช่วงที่พีคสุดๆ ช่วงหนึ่งของคอนเสิร์ตเลยก็ว่าได้

          เพลงถัดมาได้แก่ One (Blake's Got a New Face) ที่ เอซร่า ชวนทุกคนให้ช่วยกันร้อง Blake's Got a New Face ร่วมกับเขา ซึ่งคนดูก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และแฟนๆ ก็ได้เฮกันลั่นทุ่งอีกครั้งเมื่ออินโทรเพลง Giving up the Gun ดังขึ้น ซึ่งผู้ชมก็ตอบแทนพวกเขากลับไปด้วยการช่วยกันร้องเพลงนี้ โดยเฉพาะช่วงท่อนฮุค (Your sword’s grown old and rusty...) ที่ร้องตามกันได้แทบทุกคน ต่อด้วยเพลงสุดคึกคักอย่าง Campus และเพลงแสนคึกครื้นอย่าง Oxford Comma ระหว่างเพลงนี้ แอบเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กางเนื้อเพลงขึ้นมาร้องตามอย่างสนุกสนานด้วย (สอบถามภายหลังได้ความว่า พ่อหนุ่มคนนี้เป็นแฟนเพลงจากอยุธยา ที่หนีน้ำท่วมมาดูคอนเสิร์ต Vampire Weekend สุดยอดมั้ยล่ะ!!!) นี่ถือเป็นช่วงพีคที่สุดอีกช่วง เพราะแฟนๆ ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งโดด กันแบบลืมเหนื่อยเลยจริงๆ!!!

          หลังจากนั้น วงก็หลบเข้าไปด้านหลังเวที เดือดร้อนแฟนๆ ที่ต้องสนองนโยบายปรองดองช่วยกันตะโกนเรียกพวกเขาให้ออกมาโชว์ อังกอร์ ซะดีๆ ไม่นานนักสมาชิก Vampire Weekend ทั้ง 4 คน ก็เดินออกมาที่หน้าเวทีอีกครั้ง กลับมาคราวนี้ เอซร่า นักร้องนำ เรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ได้ขนานใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนมาใส่กางเกง มวยไทย (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ กรี๊ด กันดังขนาดนั้น เพราะเห็น เอซร่า ใส่กางเกงมวยไทย หรือ กรี๊ด เพราะเห็นขนหน้าแข้ง เอซร่า กันแน่...ฮาฮ่า)  

          และก่อนที่พวกเขาจะบรรเลงกันต่อ รอสแทม มือคีย์บอร์ดหัวโมฮอว์ค กล่าวชวนคนดูให้ช่วยกันร้อง “โฮ้ โฮ โฮ โฮ่ โฮ่” ในเพลงถัดไป ใช่แล้ว เพลงที่ว่าก็คือ Horchata นั่นเอง จบจากเพลงนี้ เอซร่า บอกกับคนดูว่า เพลงต่อไปเป็นเพลงที่พวกเขาไม่ได้มานานแล้ว และเขาขอมอบเพลงนี้เป็นพิเศษสำหรับแฟนๆ ที่มาในวันนี้ นั่นก็คือ Ladies of Cambridge (เพลงที่แถมมากับซิงเกิ้ล Mansard Roof ซึ่งตัดออกมาเมื่อปี 2007) แม้จะเป็นเพลงที่แฟนๆ ไม่ค่อยคุ้นนัก แต่ทุกคนก็สนุกสนานไปกับเพลงจังหวะ มันส์ๆ เพลงนี้ได้ 

          Mansard Roof  คือเพลงลำดับถัดไป ซึ่งทางวงชวนทุกคนให้โบกมือตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน หลังจบเพลงนี้ เอซร่า กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาในวันนี้อีกครั้ง ก่อนจะเข้าเพลงสุดท้ายในค่ำคืนนี้นั่นก็คือ Walcott เพลงซึ่งทำให้ทุกคนที่อยู่ในธันเดอร์โดม ไม่ว่าจะโซนนั่ง หรือโซนยืน เต้นกันกระจุย โดดกันกระจาย มีแรงเหลือเท่าไหร่ใส่กันทิ้งทวนแบบหมดแม็กซ์!!!

          เรียกว่าได้ใจแฟนๆ กันไปแบบเต็มๆ สำหรับ Vampire Weekend ที่ขนเพลงมาประเคนให้แก่สาวกของพวกเขาถึง 18 เพลง เล่น-ร้องกันเต็มที่แบบไม่มีกั๊ก กับช่วงเวลาอันเปี่ยมไปด้วยความสนุก สุดหรรษา ที่แฟนๆ ทุกคนได้ โดดกันยับ ดิ้นกันแหลก มันส์กันสุดเหวี่ยง งานนี้ สมใจ ชาวอินดี้ ทั่วหน้า! สำหรับใครที่พลาด บอกได้คำเดียวว่า...น่าเสียดาย!!!

โดย...เด็ก (แนว) ขายตั๋ว
ขอบคุณภาพประกอบจาก facebook ของ Lullaby Entertainment