10 เพลงรักสุดประทับใจจาก Take That ที่ดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

บันเทิง
10 เพลงรักสุดประทับใจจาก Take That ที่ดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

Take That เจ้าของเพลงที่คุณรู้จักกันดีอย่าง Back For Good, How Deep Is You Love, Patience, Rule The World, The Flood, Relight My Fire, Sure, Shine


หากจะพูดถึงบอยแบนด์ ส่วนใหญ่จะได้รับความเห็นอยู่สองแบบ อย่างแรกคือหลงใหล คลั่งไคล้ เป็นแฟนคลับตัวยง และอีกความเห็นหนึ่งคือร้องยี้ เพลงป๊อบดาษดื่นทั่วไป และแอบดูถูกดูแคลนว่าไม่ใช่ศิลปินที่แท้จริง

แต่สำหรับ Take That บอยแบนด์ระดับตำนานที่มีผลงานให้เราฟังมาเกือบ 3 ทศวรรษวงนี้ พวกเขาแต่งเพลงเอง และคอนเสิร์ตของเขาจัดเต็มชนิดที่ไม่ใช่แค่ร้อง แค่เต้นแล้วก็ไปเหมือนหลายๆ วง จึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงป๊อบ ร็อค แร็พ หรืออินดี้ ทุกคนให้การยอมรับพวกเขา และชื่นชอบในบทเพลงของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

มีเพลงอะไรบ้างที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนทั่วโลกเป็นเวลานานขนาดนี้ มาฟังกันค่ะ

1. Back For Good



หนึ่งในเพลงป๊อบบัลลาดชั้นดี เนื้อหาซื่อๆ ง่ายๆ ตรงๆ ไม่ต้องแปลหรืออธิบายกันยืดยาว ที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ในแบบที่ใครๆ ก็อาจจะเจอ เมื่อไม่เข้าใจกัน แล้วอีกฝ่ายก้าวออกจากชีวิต เรายังคงมีความทรงจำของคนรักอยู่รายรอบตัว แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เราอยากขอโทษ เราอยากให้เขากลับมาหาเรา และอย่าจากเราไปอีก ใครก็ฟังใจอ่อน ว่าไหม?
 
2. How Deep Is You Love?



ถึงแม้ต้นฉบับเพลงนี้จะเป็นของ Bee Gees แต่หลายคนกลับจำเพลงนี้ได้จากเวอร์ชั่นของ Take That ที่ฟังเพราะ ฟังง่าย และทันสมัยกว่า เมื่อความรักไม่ได้มีแต่ รัก หรือไม่รัก อีกต่อไป แต่ถามกันลึกลงไปอีกว่ารักมากแค่ไหน จริงจังมากแค่ไหน และรักอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องเข็มแข็ง อดทน และแสดงให้เห็นว่ารักอีกด้วย

3. Reach Out



“ความรักชนะทุกสิ่ง” คำอธิบายสั้นๆ สำหรับเพลงนี้ จากแทร็คแรกของอัลบั้ม Beautiful World ที่เป็นก้าวแรกหลังจากที่สมาชิก Robbie Williams ออกจากวงไป แล้ววงก็พักงานไปกว่า 11 ปี แต่ถึงจะกลับมาช้า ก็ยังมีเพลงป๊อบความหมายดีๆ ฟังสบายๆ ติดหูง่ยให้เราได้ฟังกันเหมือนเดิม

4. Patience



ซิงเกิลแรกหลังจากพักงานไปกว่า 11 ปี แต่มาแรงด้วยอันดับ 1 UK Chart ทั้งเพลงนี้ และอัลบั้ม Beautiful World ชื่อเพลงเหมือนสัญญาณการกลับมาของเขา ว่าสิ้นสุดการรอคอยเสียที พวกเขากลับมาทวงบัลลังค์วงการป๊อบอังกฤษคืนเป็นที่เรียบร้อย เพลงก็โตตามอายุ แต่ยังฟังเพราะและเนื้อเพลง ทำนองสละสลวยเหมือนเดิม

5. Rule The World



ฟังเพลงนี้ครั้งแรกถึงกับขนลุกซู่ เพราะทั้งเนื้อร้อง และทำนอง มีพลังและยิ่งใหญ่ตามชื่อเพลงจริงๆ นอกจากนี้พลังเสียงก็นุ่มนวล แต่หนักแน่น และส่งอารมณ์ให้คนฟังได้อย่างชัดเจน ยิ่งฟังเพลงนี้ในเวอร์ชั่นแสดงสด คุณจะรับรู้ถึงพลังของเพลงนี้ได้ดีขึ้นไปอีกสามเท่า

6. The Flood



ถ้าได้ฟังเพลงแล้วรู้สึกถึงพลังเสียงอันทรงพลังเวอร์ๆ ก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเป็นการแข่งกันโชว์พลังเสียงของ Gary และ Robbie นั่นเอง ซึ่งเพลงนี้เป็นซิงเกิลแรกของอัลบั้ม Progress ซึ่งเปนอัลบั้มแรกในรอบ 15 ปีที่ Robbie มีผลงานภายใต้ชื่อวง Take That อีกครั้ง หลังจากออกโซโล่ได้ดิบได้ดีมีชื่อเสียงอยู่พักใหญ่ ซึ่ง The Flood ที่ว่ามาจากความคิดของ Robbie ที่ว่า Take That มีอุปสรรครายล้อมมากมาย และหลายผู้คนที่อยากให้วงแตก แต่พวกเขาเปรียบเสมือนเขื่อนที่แข็งแรงที่จะไม่มีวันแตก ไม่มีวันเกิดน้ำท่วมขึ้นได้อย่างแน่นอน แหม...เข้าใจเปรียบเปรยเนอะ

7. These Days



เพิ่งจะรวมตัวกันครบวงไม่เท่าไร ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจของแฟน Take That อีกครั้ง เมื่อปี 2014 สมาชิกในวงเหลือเพียง 3 คน Gary Barlow, Howard Donald, Mark Owen แต่ถึงจะเหลือแค่ 3 ทหารเสือ ก็ยังมีพลังส่งซิงเกิลแรกของอัลบั้ม III ขึ้นที่ 1 UK Chart อีกจนได้ ไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้จริงๆ แถมกลับมาคราวนี้แดนซ์ยับกับป็อบแดนซ์ บวกกลิ่นอายเทคโนนิดๆ ฟังสนุก เต้นสบายเลยล่ะ

8. Relight My Fire



กลับมาย้อนวัยหวานสมัยเด็กๆ กันอีกครั้ง ถ้าสนุกกับ These Days ไม่พอ แล้วคิดว่าเพลงอัลบั้มเก่าๆ มีแต่เพลงช้าเพลงซึ้ง ต้องลองเพลงนี้เลย แดนซ์ยับในฉบับยุคต้น 90s’ ของจริง แฟนเพลงยุคหลังๆ อาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าใครติดตาม Take That มาตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ เพลงนี้ถือเป็นป๊อบ/ดิสโก้ที่ดังถล่มทลายมากเพลงหนึ่งเลยทีเดียว

9. Sure



ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศบอยแบนด์ยุคต้น 90s’ ของจริงแบบชนิดที่เรียกได้ว่า “นี่แหละ โครตบอยแบนด์” จริงๆ เราแนะนำแทร็คนี้เลย ตรงตามแบบฉบับบอยแบนด์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเพลงป๊อบแดนซ์พร้อมเทคนิคเล่นแผ่นแบบที่ดีเจสมัยนั้นชอบใส่กัน เนื้อเพลงซ้ำๆ ในท่อนฮุค เพื่อให้ร้องตามกันได้ง่ายๆ ไหนจะภาพลักษณ์ใสๆ ในเอ็มวีอีก เป๊ะมากจริงๆ ขอบอก

10. Shine



ถ้าเพลงแดนซ์สมัยบอยแบนด์จ๋าไม่ใช่แนว ลองมาฟังเพลงแดนซ์ยุคโมเดิร์นที่ติดหูง่ายมากๆ และร้องตามได้สบายๆ ในเพลงนี้กันดีกว่า นอกจากจะช่วยสร้างสีสันเวลาแสดงสดได้ดีแล้ว ทำนองที่ติดหูสุดๆ นี้ยังถูกใจสาว Lily Allen จนขอยืมไปใช้แต่งเพลงใหม่ที่ชื่อ Who’d Have Known อีกด้วย

นอกจาก 10 เพลงนี้ยังมีเพลงเพราะๆ ของ Take That ที่ควรค่าแก่การเปิดฟังเพลินๆ อีกเพียบ ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษกันบ้างเอ่ย แชร์บอกเรากันบ้างนะคะ แล้วอย่าลืมไปพบพวกเขาตัวเป็นๆ ได้ที่คอนเสิร์ต Take That Live in Bangkok 2016 กันด้วยล่ะ

ที่มา :