แนวคิดเริ่มต้นของเพลง น้ำตาท่วมจอ คือ เรื่องทั่วไปที่เราเห็นเวลาเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก จะมีการที่บางคนชอบบอกทุกอย่างผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กของตัวเอง โดยเฉพาะการระบายความเศร้าเพื่อหวังให้คนอื่นได้เห็น แต่ลืมมองเห็นความสุขของตัวเองไป จุดนี้คือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเข้าถึงทุกคนได้ง่าย ผ่านดนตรีที่กลมกล่อมมากกว่าเพลงอื่นๆ ของทาบัสโก้ แต่แฟนเพลงก็น่าจะพอเดาได้ว่า ไม่ธรรมดา

 

“ในส่วนของพาร์ตดนตรี หลังจากทำอะไรจัดจ้านไปเยอะแล้วจากอีพีอัลบั้ม “X” (2017) ก็เลยปรับรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ลดทอนความเยอะของดนตรี ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลหน่อย ไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่มีความเป็นพังก์มาก บางคนจะบอกว่า “ฉีกแนว” แต่โดยรวมยังมีเอกลักษณ์ของความเป็นทาบัสโก้ทุกอย่างอยู่ พยายามสื่อให้เข้าใจว่า เราเข้าใจว่าเขาเศร้าขนาดไหน และเราอยากให้กำลังใจให้เขาผ่านไปให้ได้ ให้เป็นอะไรที่ง่ายๆ แต่แสบๆ หน่อยเหมือนเดิม” 

 

มิวสิกวิดีโอ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทาบัสโก้ภูมิใจนำเสนอ และเชื่อว่าจะกระตุ้นให้คนเศร้าที่เสพติดโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีแรงบันดาลใจในการก้าวต่อไปอย่างมีกำลังใจ และเข้าใจว่า “ตนเองยิ้มได้เพราะตนเอง ไม่ใช่คนอื่น” เรื่องนี้กำกับโดย เสือ พิชย จรัสบุญประชา ผู้กำกับซีรีส์ Project S The Series | SPIKE! จากจีดีเอช นักแสดงนำ โดย กุ๊กไก่ ภาวดี คุ้มโชคไพศาล  

 

“เพลงนี้เหมือนเป็นการปลอบและให้กำลังใจมากกว่า เราไม่ได้คิดต่อว่าหรือสั่งสอนนะครับ เป็นลักษณะการพูดที่เราเข้าใจเขามาก ว่าคืนแรกที่เราเสียใครไปสักคน มันยากเย็นกว่าที่เราจะผ่านไปได้ มองท้องฟ้า ก็คืนนี้แสนเศร้า ไม่รู้ว่าฉันจะผ่านไปอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วทุกคนต้องเข้าใจว่าสิ่งที่มนุษย์เราใช้หายใจคืออากาศ ไม่ใช่ลมหายใจของคนเคยรักกัน จริงๆ แล้วเราก็มีชีวิตอยู่ได้ ถึงร้องไห้หรือฟูมฟายไป สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมา  เว้นแต่ว่าเราต้องเรียนรู้ว่าเรากำลังจะมีชีวิตใหม่นะ ที่จะไม่มีผู้ชายคนนั้น” แชมป์ กล่าว