ไคลี มิโนก Kylie Minogue ศิลปินที่เป็นมากกว่าซูเปอร์สตาร์ ยิ่งใหญ่กว่าเป็น แดนซิ่งควีน!

ไคลี มิโนก Kylie Minogue ศิลปินที่เป็นมากกว่าซูเปอร์สตาร์ ยิ่งใหญ่กว่าเป็น แดนซิ่งควีน!

:: ในฐานะของนักร้อง/นักแสดง ::

เรียกได้ว่าเป็นศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับ Kylie Minogue (ไคลี่ มิโน้ค) พิสูจน์จากผลงานที่ผ่านมา ที่แทบจะดังทุกซิงเกิ้ลฮิต ทุกอัลบั้ม จนขึ้นทำเนียบแดนซิ่งควีน ราชินีเต้นรำ ที่แฟนเพลงทั่วโลกให้การยอมรับ

โดยผลงานเพลงของไคลี่ มิโน้ค ทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 68 ล้านก๊อปปี้ คว้ารางวัลมาแล้วทั้ง Brit Awards และ Grammy

ไคลี มิโนก เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1968 ที่ รพ.เบ็ธเลเฮม เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ไคลีเธอเริ่มเข้าวงการตั้งแต่ อายุ 11 ขวบ กับงานแสดงละครโทรทัศน์ใน ออสเตรเลีย เรื่อง Skyways ต่อมาเธอก็รับบทอีกหลายบท รวมทั้งบทชาร์ลีนในเรื่อง Neighbours ในบทชาร์ลีนนี้เองที่ช่วยให้เธอได้บันทึกเสียงเพลง Locomotion งานเก่าของ ลิทเทิล อีว่า กับสังกัด Mushroom ในออสเตรเลีย และเพลงนี้ก็ฮิตติดชาร์ทอันดับที่ 1 ในออสเตรเลีย

PWL บริษัทของของสต็อค, เอตเค่น และวอเทอร์แมน ทีมโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุคนั้น ที่ปั้นซูเปอร์สตาร์มานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็น Bananarama, Dead Or Alive, Mel And Kim, ริค แอสต์ลีย์, ฯลฯ ได้ร่วมงานกับเธอ

เพลง I Should Be So Lucky ที่ออกจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 1987 ครองแชมป์อันดับที่ 1 ในอังกฤษได้ถึง 5 สัปดาห์ และยังเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดในอังกฤษ ประจำทศวรรษนั้นอีกด้วย

เธอบันทึกเสียง Locomotion อีกครั้ง คราวนี้สามารถติด Top 10 ทั้งในอเมริกา, ออสเตรเลีย, อังกฤษ และ ยุโรปได้ด้วย PWL ทั้งแต่งเพลง, โปรดิวซ์ จนในที่สุดเธอก็ลาออกจากการเป็นนักแสดงทีวีซีรีส์ เรื่องดัง Neighbours และทุ่มเทเวลาเต็มที่ให้กับงานร้องเพลง

รอยร้าวระหว่าง PWL และ ไคลี่ เริ่มขึ้นราวปี 1990 ไคลี่ เริ่มค้นหาความเป็นตัวเองกับงานชิ้นแรกที่เธอขอทำมิวสิกวิดีโอเอง ทั้งหมด โดยไม่มี PWL ยื่นมือมาเกี่ยวข้อง ซิงเกิ้ลที่ว่าคือ Better The Devil You Know พออัลบั้ม Let's Go To It ในปี 1991 ไคลี่ เรียกร้องที่จะแต่งเพลงเองบ้าง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ ไคลี่ ผละจากอก PWL มาอยู่ค่าย ดีคอนสทรัคชั่น ในปี 1993 กับอัลบั้ม Kylie Minogue มี Brothers In  Rhythm เป็นแบ็คอัพอย่างดี นอกจากนี้เธอยังได้ร่วมงานกับศิลปินร็อคจาก ออสเตรเลีย นิค เคฟ ในอัลบั้มของเขา Murder Ballads กับ ซิงเกิ้ล Where The Wild Flowers Grow

ปี 1998 เธอออกอัลบั้มชุดที่ 7 Impossible Princess เธอแต่งเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้เอง มีแขกรับเชิญอย่าง เจมส์ ดีน แบรดฟีลด์ วง Manic Street Preachers และ Brothers In Rhythm ยังเป็นผู้ร่วมงานหลักของเธออยู่ดี แต่อัลบั้มชุดนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตั้งแต่เธอเข้าวงการมา

แต่ไม่นานนัก ไคลี่ก็สามารถกอบกู้ชื่อเสียงได้ทีละเล็กทีละน้อย ด้วยการมีผลงานอื่นอีก เช่น ผลงานเพลงเต้นรำอันเดอร์กราวด์ ที่เธอร่วมงานกับ โทวะ เทอิ (อดีตวง Dee Lite) จากญี่ปุ่น, ร้อง The Reflex คู่กับ เบน ลี ในอัลบั้มนำเอางานเก่าของดูแรน ดูแรน มาทำใหม่, จับคู่ร้องกับ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ ในอัลบั้ม Sing When You're Winning ในเพลง Kids แต่การร่วมงานกับ Pet Shop Boys ต่างหากที่ทำให้เธอย้ายค่ายมาอยู่กับ พาร์โลโฟน มีเพลงร้องร่วมกันกับ Pet Shop Boy ในเพลง In Denial

มิถุนายน 2000 กับอัลบั้ม Light Years ซิงเกิ้ล แรก Spinning Around ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษและออสเตรเลีย เพลงนี้ได้ พอลล่า อับดุล นักร้องเจ้าของ ซิงเกิ้ลฮิตมากมายในยุค 80 เป็นคนแต่งให้จากนั้น ไคลี่ ได้ออกอัลบั้มชุดใหม่ Fever ออกมา โดยออก Can't Get You Out Of My Head เป็นซิงเกิ้ลแรกก่อน เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิต ที่อังกฤษ ได้ถึง 3 สัปดาห์ โดยนักร้องเพลงป๊อปจากยุค 80 แคธี่ เดนิสเป็น ผู้ประพันธ์เพลงนี้ เพลงนี้ยังดังข้ามฝั่งไปดัง ติดชาร์ทท็อป10 ในอเมริกาอีกด้วย และยังมีเพลงดังอีกหลายเพลงอย่าง In Your Eyes,Love At First Sight และ Come Into My World

ไคลี่ ยังร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ล่าสุดกับ Moulin Rouge ในบท Green Fair หลังจากนั้นในปี 2003 เธอก็ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Body Language มีเพลงฮิตคือ Slow,Red Blood Woman และ Chocolate ได้ออกอัลบั้มรวมฮิต Ultimate Kylie และมีเพลงใหม่คือ I Believe In You และ Giving You Up


ไคลี่ออกทัวร์ใหญ่ทั่วโลก คือ Showgirl: The Greatest Hits Tour แต่ก็เกิดเรื่องจนได้ในเดือนพฤษภาคม เมื่อไคลี่ถูกตรวจพบว่าตัวเอง เป็นมะเร็งเต้านม จึงต้องรักษาตัวอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ณ ประเทศออสเตรเลีย และจำเป็นต้องงดทัวร์

พฤศจิกายน 2007 ไคลี่กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า X โดยความหมายได้รวมถึงเป็นอัลบั้มที่ 10 (X คือจำนวนสิบในอักษรลาติน) เริ่มซิงเกิ้ลแรกด้วยเพลง 2 Hearts และในอัลบั้มนี้ยังได้ร่วมร้องกับศิลปินชาวไต้หวัน โจลิน ไซ ในซิงเกิ้ล In My Arms

ในปี 2010 ไคลี่ ออกอัลบั้มชุดล่าสุดที่มีชื่อว่า Aphrodite โดยมีเพลง All the Lovers เป็นซิงเกิ้ลแรก อัลบั้มชุดนี้ขึ้นอันดับหนึ่งในอังกฤษในสัปดาห์แรกทันที ไม่เพียงเท่านั้นเพลง All the Lovers และ Get Outta My Way ยังข้ามฝั่งไปฮิตที่อเมริกา โดยสองเพลงดังกล่าวขึ้นถึงอันดับหนึ่งของ Billboard Hot Dance Club Songs chart อีกด้วย

:: ในฐานะหญิงแกร่งที่ต่อสู้กับโรคร้าย ::

อย่างที่แฟนๆ ไคลี่ ทราบกันว่า เธอตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมในวันที่ 17 พฤษภาคม 2005 ซึ่งช่วงในเองทำให้เธอต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ต Showgirl ในหลายๆ ที่ เพื่อเข้ารับการรักษาตัว และด้วยกำลังใจที่ได้รับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม ทำให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี รวมถึงการเข้ารับการบำบัด ก็ทำให้ร่างกายของไคลีฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จนสามารถกลับมาร้องเพลง และทัวร์คอนเสิร์ตได้อีกครั้ง เรียกได้ว่า ไคลี่ มิโน้ก เป็นหญิงแกร่งมากๆ ที่สามารถเอาชนะโรคร้าย และกลับมาครองใจแฟนเพลงได้อีกครั้ง

:: ซิงเกิ้ลฮิต ::

>> Spinning Around <<

 

>> Can't Get You Out of My Head <<

 

>> Slow <<

 

>> All the Lovers <<

 

>> Get Outta My Way <<

:: ผลงานอัลบั้ม ::


1988: Kylie

1989: Enjoy Yourself

1990: Rhythm of Love

1991: Let's Get to It

1994: Kylie Minogue

1997: Impossible Princess

2000: Light Years

2001: Fever

2003: Body Language

2007: X

2010: Aphrodite
 

 

ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก - http://th.wikipedia.org/wiki/ไคลี_มิโนก

จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตแล้ววันนี้...