5 อันดับ ที่เที่ยวหน้าหนาว นอนนับดาว เคล้าไอหมอก

กินเที่ยว
5 อันดับ ที่เที่ยวหน้าหนาว นอนนับดาว เคล้าไอหมอก

ในที่สุด หน้าหนาวที่เพื่อนๆ ขาเที่ยวหลายคนตั้งตารอมาตลอดทั้งปี ก็มาเยือนอีกครั้ง...

ในที่สุด หน้าหนาวที่เพื่อนๆ ขาเที่ยวหลายคนตั้งตารอมาตลอดทั้งปี ก็มาเยือนอีกครั้ง...

ชาวกรุงไม่ต้องหนีร้อนไปพึ่งเย็น (เดินตากแอร์) ตามห้างกันแล้วนะคะ เพราะวันนี้ HotelSThailand.com จะมาชวนเพื่อนๆ ที่อยากสัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบแนบชิดธรรมชาติ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้ชุ่มปอด ได้โอบกอดคนรู้ใจแบ่งปันไออุ่นท่ามกลางทิวทัศน์ของทะเลหมอกที่สวยงาม และยังได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า นอนนับดาวยามค่ำคืนอีกต่างหาก แหม...ครบสูตรแบบนี้แค่คิดก็โรแมนติกสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะคะ งั้นอย่ารอช้า! เรามาเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม แล้วแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวให้เข้ากับบรรยากาศ ก่อนที่ความหนาวจะโบกมือลากันดีกว่า จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง / เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน



ยังคงเป็นที่เที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวไม่เสื่อมคลาย สำหรับ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมทั้งอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ห้วยน้ำดัง มีจุดเด่นอยู่ที่จุดชมวิว ได้แก่ ดอยกิ่วลม ดอยช้าง และดอยสามหมื่น และยังมีทะเลหมอก ซึ่งได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ที่นี่เพื่อนๆ จะได้เห็นทะเลหมอกสีขาวไกลสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางอากาศอันบริสุทธิ์ในยามเช้า โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นที่สุดเหมาะกับการชมทะเลหมอกอย่างยิ่ง ขอบอกว่าบรรยากาศดีสุดๆ ไปเลยค่ะ! แถมปิดทริปด้วยการแวะแช่เท้าให้คลายหนาวในน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ โป่งเดือด รับรองว่าต้องติดอกติดใจจนอยากกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอนค่ะ

2. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ / เชียงใหม่



คงไม่แปลกที่ "ดอยอินทนนท์" "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" จะติดอันดับต้นๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหน้าหนาวของเชียงใหม่เพราะนอกจากจะเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมของพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะนกประจำถิ่นและนกอพยพ อากาศที่นี่จะหนาวเย็นที่สุดในเดือนธันวาคม-มกราคม อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึง 0-4 องศาเซลเซียส งานนี้รับรองว่าได้หนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจกันเลยทีเดียว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ น้ำค้างแข็ง หรือ แม่คะนิ้ง (ชาวเหนือเรียกว่า เหมยขาบ) เวลาแสงแดดอ่อนๆ ส่องมากระทบ จะเปล่งประกายระยิบระยับ สวยงามติดตาตรึงใจมากค่ะ ภายในบริเวณอุทยานฯยังมี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง อ่างกาหลวง โครงการหลวงดอยอินทนนท์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกหลายจุด ก่อนเดินทางกลับจะแวะสักการะพระมหาธาตุ เพื่อเป็นศิริมงคลรับปีใหม่ก่อนใครก็ไม่เลวนะคะ เรียกว่า เที่ยวครั้งเดียวคุ้ม!

3. วนอุทยานภูชี้ฟ้า / เชียงราย



ภูชี้ฟ้า เป็นอีกสถานที่ไฮไลท์ในการชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเชียงราย และเป็นสถานที่ยอดฮิตในการถ่ายภาพ ด้วยลักษณะโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครของยอดเขาที่ยื่นแหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินเท้าขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันตั้งแต่รุ่งสาง ขอย้ำว่ารุ่งสางจริงๆค่ะ เพราะต้องตื่นเช้าและออกเดินเท้าประมาณตี 5 เพื่อไปยังจุดชมวิว แต่เพื่อนๆ ลองจินตนาการดูสิคะว่า การได้นั่งปล่อยใจทอดสายตาดูพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ผ่านทะเลหมอกและทุ่งหญ้า สลับกับทิวเขาที่เรียงรายทอดตัวอยู่เบื้องล่าง จะงดงามราวกับภาพวาดขนาดไหน นับว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยใช่ไหมล่ะคะ ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมทะเลหมอกที่สุด คือ เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ และช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิดอกสีชมพูงามสะพรั่งคอยต้อนรับเพื่อนๆ อยู่ริมทางเดิน โอ...นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ!

4. ผาเก็บตะวัน (วังน้ำเขียว) / นครราชสีมา



มาถึงที่เที่ยวยอดฮิตใกล้กรุงเทพเข้ามาอีกหน่อยนะคะ สำหรับ ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขตจ.ปราจีนบุรีและจ.นครราชสีมาที่ใหญ่ที่สุด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่นี่จึงเป็นแหล่งทำการเกษตรที่สำคัญของชาวบ้าน ตลอดเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ผาเก็บตะวัน เราจะได้เห็นบรรดาแปลงผักและไร่องุ่นเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อไปถึงจุดหมาย ก็ได้เวลาดื่มด่ำกับอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นในแบบพาโนรามา ในบรรยากาศหนาวๆ แบบกำลังดี ยิ่งถ้าเป็นช่วงต้นลานออกดอกบานสะพรั่ง ทิวทัศน์ของที่นี่จะสวยงามมากๆ ไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะค่ะ แต่ให้ชมวิวอย่างเดียวคงยังไม่พอ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ สุดสร้างสรรค์ที่อยากให้เพื่อนๆ ได้ลอง นั่นก็คือ ปลูกป่ามะค่าโมงด้วยหนังสติ๊ก หรือใครอยากโชว์วงสวิง ก็มีไม้กอล์ฟให้ยืมแล้วแต่ความถนัด  งานนี้รับรองว่ากลับบ้านไปคงได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นของฝากกันถ้วนหน้าค่ะ

5. เขาช้างเผือก (สังขละบุรี) / กาญจนบุรี



เขาช้างเผือก เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำหรับคนที่ชอบสะพายเป้เดินขึ้นเขา แต่ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ เพราะเขาช้างเผือกตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จุดที่สามารถชมทิวทัศน์แบบตื่นตาตื่นใจ 360 องศา จุดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สันคมมีด ซึ่งเป็นสันเขาที่มีลักษณะคล้ายช้างหมอบ  แต่การจะขึ้นไปถึงบนนั้น ต้องค่อยๆ ไต่หน้าผาไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ฝ่าทั้งความหนาวและกระแสลมที่คอยพัดพาให้ใจหวิวลุ้นระทึกไปทุกย่างก้าว แถมทางเดินบางช่วงเป็นหินโล้นขรุขระ บางช่วงเป็นผาหินตั้งชัน มองซ้ายมองขวาก็พาให้ใจสั่น เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทายจริงๆ ค่ะ แต่ในช่วงที่อากาศหนาวจัด จะมองเห็นวิวของยอดเขาสูงที่ทอดตัวยาวซ้อนกันเป็นทิวแถว คลุ้งไปด้วยหมอกหนาสีขาว ทั้งมีแสงแดดอุ่นๆ ส่องผ่านก้อนเมฆลงมา ดูแล้วชวนให้หลงใหลไปกับเสน่ห์ของเขาช้างเผือก...เพื่อนๆ ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองกันนะคะ

ที่มา :