การหมกมุ่นกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพจนเกิดผลเสียกับตัวเองดูจะเป็นประโยคที่ขัดแย้งกันในตัว โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงอัตราการเป็นโรคอ้วนที่พุ่งสูงขึ้น การเลิกกินของไม่ดีจะให้โทษได้อย่างไร มาดูกันค่ะ

ถึงมันจะขัดแย้งกับความเชื่อของหลายๆ คน แต่เหล่านักวิจัยและนักกำหนดอาหารก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการควบคุมอาหารซึ่งส่งผลกระทบมากๆ ในวงกว้าง คนที่มีปัญหานี้มักจะเป็นคนวัย 30 ที่ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพและมีการศึกษาดี ในสังคมออนไลน์ก็มีแต่คนพูดถึงการกินคลีนและอาหารเพื่อสุขภาพ แถมหลายคนยังชอบโพสท์รูปอาหารที่ดูไม่น่ากินเพื่อให้คนที่ตัวเองไม่รู้จักแสดงการยอมรับด้วยการกดไลค์อีกต่างหาก นี่คืออาการของคนที่มีความผิดปกติด้านพฤติกรรมการกินประเภทใหม่ล่าสุดอย่าง ออร์โทเร็กเซีย และถ้าคุณเคยวิตกกังวลจนท้องไส้ปั่นป่วนหลังจากที่กินเเซนวิชชีส หรือปฎิเสธคนที่ชวนกินมื้อเย็นเพราะกลัวอ้วน คุณก็อาจจะเป็นโรคนี้เช่นกันค่ะ

ถ้ายังไม่แน่ใจก็ลองถามตัวเองว่า เวลาที่จะทำมื้อเย็นกิน คุณให้ความสำคัญกับองค์ประกอบทางโภชนาการมากกว่ารสชาติของอาหารหรือเปล่า คุณมีอาหารที่อยากกิน แต่ไม่คิดจะเเตะเป็นบัญชีดำอยู่ในใจหรือเปล่า การคิดว่าน่าจะลองกินสปาเก็ตตี้ซอสเนื้อสูตรลับของเพื่อนดูสักครั้งทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจกับปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่เครื่องปรุงรสเข้มข้นหรือเปล่า ?

ถ้ามีข้อที่คุณตอบว่าใช่ สิ่งที่เริ่มต้นจากความต้องการที่จะเป็นคนรูปร่างดีก็อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น และถึงเเม้รอบเอวที่ขยายใหญ่ขึ้นและปัญหาสุขภาพที่ตามมาจะเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจ แต่คนที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งที่ร้ายแรงพอๆ กันก็มีจำนวนไม่น้อยเลย ปัญหานี้ใหญ่ขึ้นเพราะการควบคุมอาหารแบบแหวกแนวกลายเป็นเรื่องที่สังคมให้การยอมรับและอาจดูเป็นเรื่องเจ๋งด้วยซ้ำ

ในวันคริสต์มาส วันเกิด หรืองานเเต่งงาน หลายๆ คนจะฉลองด้วยการกินอาหารที่เหมาะกับแต่ละโอกาส ถ้าการกินอาหารเพื่อสุขภาพทำให้คุณไปร่วมงานสังคมพวกนั้นไม่ได้ ไปกินข้าวนอกบ้านไม่ได้ หรือออกไปพบปะสังสรรค์กับคนอื่นไม่ได้ นั่นก็จะกลายเป็นปัญหา และถ้าโภชนาการเริ่มกลายเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตจนคุณเริ่มใช่เวลาในการวางแผนและหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป มันก็จะกลายเป็นการหมกมุ่นจนเสียสุขภาพนั่นเองค่ะ