10 เหตุผล ที่ทำให้ Sonic Bang คือ สุดยอดเทศกาลดนตรี ที่คุณห้ามพลาด!

บันเทิง
10 เหตุผล ที่ทำให้ Sonic Bang คือ สุดยอดเทศกาลดนตรี ที่คุณห้ามพลาด!

SONIC BANG THE ULTIMATE INTERNATIONAL MUSIC FESTIVALพบกับ 30 วงดนตรีระดับโลกอย่าง เจสัน มราซ พิทบูลล์ มิยาบิ Slot Machine Flure โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ แสตมป์ Lipta Room 39 Scrubb Gale Sugar Eyes Buddha Bless Southside กระแต ใบเตย อาร์สยาม เจ มณฑล

Sonic Bang

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับ เทศกาลดนตรีนานาชาติ Sonic Bang ที่เตรียมพร้อมระเบิด ความมันส์ ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2556 สำหรับใครที่มีบัตรอยู่ในมือแล้ว อย่าลืม! ไปรวมตัวโดยพร้อมเพรียงกันที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ซื้อบัตร และยังลังเล หรือสงสัย ว่า จริงๆ แล้ว Sonic Bang คืออะไร?, มีศิลปินคนไหนมาเล่นบ้าง? ไปแล้วจะสนุกมั้ย? ราคาบัตรที่จ่ายไปจะคุ้มค่าหรือเปล่า? 

ต่อไปนี้คือ 10 เหตุผล ที่น่าจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า Sonic Bang คือสุดยอดเทศกาลดนตรี ที่คุณ ห้ามพลาด! ด้วยประการทั้งปวง...

1. นี่คือ สุดยอดเทศกาลดนตรีระดับโลก!

Sonic Bang คือ สุดยอดเทศกาลดนตรีนานาชาติที่รวมศิลปินระดับโลก เอเชีย และไทยไว้มากกว่า 30 วง และคงไม่ใช่เรื่องเกินเลยอะไรหากจะบอกว่า นี่คือเทศกาลดนตรีนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีมา ซึ่งพร้อมจะเปิดประสบการณ์ทางดนตรีอันหลากหลายให้ทุกคนได้สนุกสุดเหวี่ยงไปพร้อมๆ กันใน 1 วัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ยัน เที่ยงคืน

2. เพียบพร้อมด้วยศิลปินระดับบิ๊กเนม

Sonic Bang อัดแน่นไปด้วยศิลปินระดับโลก เสริมทัพด้วยศิลปินเอเชีย และไทย รวมกว่า 30 วง นี่คือเทศกาลดนตรีที่คัดสรรศิลปินมาเพื่อเอาใจแฟนเพลงทุกกลุ่มทั้ง ป๊อป, ร็อค, แดนซ์, ฮิพ-ฮอพ ฯลฯ ซึ่งเทศกาลดนตรีระดับโลกขนาดนี้ บอกได้เลยว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย และในเมื่อทางผู้จัด "กล้า" ที่จะจัดเทศกาลคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ขนาดนี้ขึ้นมา เราในฐานะคอดนตรีตัวจริงจะยอมพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ได้ยังไง!

ศิลปินระดับโลก - Jason Mraz, Pet Shop Boys, Placebo, Pitbull, Ash, Owl City ฯลฯ

Sonic Bang


ศิลปินเอเชีย -
Rain, Far East Movement, Scandal, Jam Project, Miyavi, Kyary Panyu Pamyu ฯลฯ

Sonic Bang


ศิลปินไทย -
Slot Machine, แสตมป์ อภิวัชร์, โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์, Flure, Scrubb, Lipta, Room39, Buddha Bless ฯลฯ

Sonic Bang


3. ศิลปินจัดเต็มแบบ Full Show

หากเทียบกับเทศกาลดนตรีอื่นไม่ว่าที่ไหนในโลก (รวมถึงเทศกาลดนตรีตระกูล Sonic ในประเทศอื่นอย่าง Summer Sonic ของญี่ปุ่น หรือ Super!Sonic ของเกาหลี) Sonic Bang ที่จัดขึ้นในบ้านเรา ถือเป็นเทศกาลดนตรีที่โชว์ของศิลปินแต่ละคนจะมีความยาวกว่าที่อื่น อธิบายง่ายๆ ก็คือ ในขณะที่ศิลปินที่มาเล่นในเทศกาลดนตรีอื่นๆ จะขึ้นเล่นโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที หรือ เต็มที่ก็ 1 ชั่วโมงเศษๆ แต่สำหรับที่ Sonic Bang รับประกันได้เลยว่า งานนี้ จัดเต็ม! จัดหนัก! กันทุกคน โดยจะเล่นกันแบบเต็มโชว์ประมาณ 1-2 ชม.! (ดังนั้น ใครที่คิดว่าศิลปินคนโปรดของตัวเองจะมาเล่น 4-5 เพลง แล้วลงเวทีไป อันนี้ขอยืนยันเลยว่า ไม่ใช่ แบบนั้น)

ไล่ไปตั้งแต่วงเฮดไลน์ของงานนี้ ทั้ง Jason Mraz, Pet Shop Boys, Placebo ที่คอนเฟิร์ม มาแล้วว่าจัดเต็ม 2 ชั่วโมง แน่นอน! รวมถึงใครที่เป็นแฟนวงร็อคอย่าง Ash งานนี้คุณได้โดดกันแข้งขาขวิดแน่ๆ เพราะ ทิม วีลเลอร์ และชาวคณะ จะขนเพลงมาบรรเลงแบบ Full Show เช่นกัน

Sonic Bang

หรือสำหรับขาแดนซ์ทั้งหมู่มวลที่เตรียมมาดวลสเต็ปกับเจ้าพ่อเพลงเต้นรำ PITBULL ขอเตือน ไว้ก่อนเลยว่า จงเตรียมฟิตร่างกายของคุณเอาไว้ให้ดี เพราะงานนี้  PITBULL โชว์เต็มแม็กซ์ 1 ชั่วโมงครึ่ง เช่นเดียวกับ Owl City ที่ยืนยันมาแล้วเช่นกันว่า งานนี้เขาจะโชว์เต็ม 1 ชั่วโมงครึ่ง เหมือนกัน รวมทั้ง Far East Movement ก็จะมาปลุกต่อมคึกของคุณให้อยู่ไม่สุข 1 ชั่วโมงเต็มแน่นอน

ส่วนสาวกศิลปินเอเชี่ยนก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะศิลปินคนโปรดของคุณอย่าง EPIK HIGH, Kyary Pamyu Pamyu, MIYAVI, SCANDAL คอนเฟิร์มมาแล้วว่าจะขนเพลงมาโชว์ให้แฟนๆ ได้สนุกกัน 1 ชั่วโมงเต็มแน่นอน

4. บอกลาฝุ่น ไม่ต้องกลัวฝน ไม่ต้องทนร้อน

Sonic Bang

หากจะบอกว่า Sonic Bang คือเทศกาลดนตรีนานาชาติแบบอินดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย! ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะภายในเทศกาลจะมีทั้งหมด 6 เวที ครอบคลุมพื้นที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 1-4 และ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยจะมีเวทีหลักที่อยู่ในฮอลล์ 5 เวที (และเวทีกลางแจ้งอีก 1 เวที) ซึ่งติดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของ Sonic Bang ที่จะทำให้ทุกคนมาร่วมงานนี้กันแบบชิลล์ๆ สบายเนื้อ สบายตัว "ไม่ต้องกลัวฝน ไม่ต้องทนแดด ไม่ต้องทนร้อน ไม่ต้องเปื้อนฝุ่น ไม่ต้องลุยโคลน"

5. ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ ชมคอนเสิร์ตแบบเทศกาลดนตรี

Sonic Bang

เมื่อดูจากแต่ละเวทีที่จุผู้ชมได้ในจำนวนที่ต่างกัน หลายคนอาจกังวลว่า ถ้าเราดูศิลปินคนนี้เสร็จแล้ว จะไปดูศิลปินอีกคนซึ่งเล่นอยู่คนละเวที แต่พอไปถึงฮอลล์นั้นคนดันเต็มซะแล้ว อันนี้ก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่า ถ้ามีคนมาร่วมงาน Sonic Bang หลายหมื่นคน กรณีอย่างว่าก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราอยากให้คุณลอง "เปิดใจ" ให้กว้างว่า นี่เป็น "ฟีล" (feel) ของการเข้าร่วมเทศกาลดนตรี ที่ไม่ว่าเทศกาลใดๆ ในโลก ก็จะมีเหตุการณ์อะไรทำนองนี้เกิดขึ้น และเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่คุณอาจจะคิดว่า ทำไมผู้จัดวางคิวการแสดงไม่ตรงใจเราเลย เพราะศิลปินคนโปรดที่เราอยากชมอาจไม่ได้เล่นอยู่ที่เวทีเดียวกัน หรือไม่ก็เล่นในเวลาที่เหลือมกันที่อีกเวทีนึง อันนี้ก็ต้องขอความกรุณาให้ทุกคนทำความเข้าใจอีกเช่นกันว่า ไม่ว่าเทศกาลดนตรีไหนทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ ซึ่งนี่แหละคือ "เสน่ห์" ของการเข้าร่วมในงานเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ เพราะก่อนมาคุณจะต้อง วางแผน จัดคิวกันล่วงหน้าให้ดีว่า จะไปดูศิลปินคนไหนบ้าง? เพราะให้ตายยังไง เราก็ไม่มีทางดูศิลปินได้ครบทุกวงในงานเทศกาลดนตรีแบบนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญกว่าที่จะได้รับคืนมาก็คือ เรื่องของบรรยากาศการชมเทศกาลดนตรี ที่จะแตกต่างกับการชมคอนเสิร์ตทั่วๆ ไป อย่างสิ้นเชิง

*** หมายเหตุ - ดูจากชื่อเวทีแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่า Silent Disco คืออะไร? ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ ผับเงียบ ที่เมื่อใครเข้าไปในฮอลล์นี้แล้วต้องการโยกย้ายส่ายเอว จะต้องหยิบหูฟังมาสวมแบบของใครของมัน ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่ากำลังเต้นระบำอยู่ในผับส่วนตัว โดยงานนี้ได้ทีมงานจาก Silent Disco DJ (ซึ่งเคยไปวาดลวดลายมาแล้วตามเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ ทั่วโลกเช่น Big Day Out, Pinkpop) ที่ส่งตรงจากอังกฤษ มาเปิดเพลงสาดความสุดเหวี่ยงประชันกับทีม DJ ชั้้นนำของเมืองไทยอย่าง DJ ซี้ด นรเศรษฐ, DJ สุหฤท, DJ เจ มณฑล ฯลฯ

6. บรรยากาศ ความรู้สึก และอารมณ์ร่วม ที่หาได้เฉพาะในเทศกาลดนตรีระดับโลก!

อีกอย่างที่อยากอธิบายกันให้เคลียร์ตรงนี้ก็คือ ในเทศกาลดนตรีแบบนี้จะไม่มีการปิดประตูเข้า-ออกของทุกฮอลล์ เพื่อให้ผู้ชมเข้า-ออกได้ตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อเราชมการแสดงของศิลปินคนนี้อยู่ แล้วอยากไปดูโชว์ของศิลปินอีกวงที่เล่นอยู่อีกเวทีนึง ก็สามารถทำได้ตามอัธยาศัย โดยการแสดงของศิลปินในแต่ละเวทีนั้น หลังจากจบการแสดงจะมีช่วงเวลาเซ็ตเครื่องดนตรีประมาณ 15-30 นาที ก่อนที่ศิลปินต่อไปจะขึ้นแสดง เพราะฉะนั้น อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า คุณจะต้องวางแผนกันให้ดีก่อนว่าจะดูศิลปินคนไหนบ้าง? และบางทีเราอาจจะต้องรีบ วิ่ง จากเวทีนึงเพื่อไปดูศิลปินอีกเวทีนึง ซึ่งการ วิ่ง ไปให้ทันดูศิลปินอีกเวทีนึงนี่แหละ คือความสนุกที่เป็น เสน่ห์ อีกอย่าง รวมถึง การที่เราจะได้เข้าไปสัมผัสกับรรยากาศแบบเทศกาลดนตรี ซึ่งจะมีผู้เข้าชมที่เป็นคอดนตรีตัวจริงมารวมตัวกันมากมาย เพื่้อเฝ้าชมคอนเสิร์ตของสุดยอดศิลปินที่มารวมตัวกันมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบรรยากาศ ความรู้สึก และอารมณ์ร่วม อย่างนี้ เป็นอะไรที่หาได้เฉพาะในงานเทศกาลดนตรีแบบนี้เท่านั้น!
 

7. เทศกาลดนตรีระดับโลก ในราคาสุดคุ้ม!

Sonic Bang

เชื่อว่าหลายคนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะมาร่วมงาน Sonic Bang มั้ย? เหตุผลนึงน่าจะเป็นเพราะกำลังคิดอยู่ว่าค่าบัตรที่จ่ายไปจะคุ้มหรือเปล่า? อันนี้ก็ต้องขอความกรุณาให้ทุกคนลอง เปิดใจ ให้กว้างอีกเช่นกันว่า ในเทศกาลดนตรีแบบนี้ (ไม่ว่าที่ใดในโลก) เราไม่มีทางที่จะดูศิลปินได้ครบทุกวงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าคิดว่าจ่ายตังค์ไปแล้ว "จะต้องได้ดูครบทุกวงที่มาซิ!" คิดแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มแน่นอน ทีนี้อย่างที่อธิบายไปข้างต้นแล้วว่า ในเทศกาลดนตรีแบบนี้จะต้องวางแผนกันก่อนล่วงหน้าว่า เราจะไปดูศิลปินคนไหนบ้าง? และถ้าเราทำได้ตามแผนได้ล่ะก็ รับรองว่าคิดยังไงก็ คุ้มค่าตั๋วแน่นอน ไม่เชื่อลองดูจากตัวอย่างข้างล่างนี้ได้...

*** หมายเหตุ - สมมติว่าทุกตัวอย่าง ซื้อบัตรในราคา 4,000 บาท (แต่จริงๆ บัตรอาจจะไม่ถึง 4,000 บาท ก็ได้ ถ้าใช้โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลดราคา คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่น)

ตัวอย่างที่ 1 สมมติว่าเป็นแฟนเพลงที่ชอบศิลปินทุกแนว แล้วตั้งใจว่าจะดูศิลปินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แผนการจะออกมาประมาณนี้...
11 โมงกว่าๆ ดู Buddha Bless (เวที Boom), บ่ายโมง ดู Miyavi (เวที Pow), บ่ายสามโมง ดู Scandal (เวที Bang), สี่โมง (รีบวิ่งมา) ดู Far East Movement ต่อด้วย Ash (เวที Pow), อาจจะดู Ash ไม่จบดี แล้ว 6 โมงกว่าๆ เปลี่ยนมาดู Rain ต่อด้วย PITBULL (เวที Boom) และอาจยอมตัดใจดู PITBULL ไม่จบ เพื่อเปลี่ยนไปดู Jason Mraz เล่นปิดงาน (เวที Bang)
ตัวอย่างที่ 1 นี้ ถ้าทำได้จริงตามแผน (ซึ่งคงต้องฟิตร่างกายมาให้ดี และอาจต้องเตรียมเสบียงส่วนตัวมาให้พร้อม) เท่ากับว่า เสียค่าบัตร 4,000 บาท ได้ดูศิลปิน 8 วง เฉลี่ยแล้วตกแค่วงละ 500 บาท เท่านั้น!

ตัวอย่างที่ 2 สมมติว่าเป็นแฟนเพลง ร็อค หรือ แดนซ์ แล้วเลือกดูเฉพาะวงร็อค หรือ ศิลปินเต้นรำ ที่ชื่นชอบ แผนการจะออกมาประมาณนี้...
ตัวอย่างที่ 2.1 (คอร็อค) บ่าย 2 โมงกว่าๆ ดู Scandal (เวที Bang), โผล่ไปดูตามเวทีนั่นที เวทีนี้ที เพื่อฆ่าเวลา และสุดท้ายไปปักหลักที่ เวที Pow ตอน 6 โมงเย็น เพื่อดู Ash, Slot Machine และ Placebo 3 วงรวด สำหรับตัวอย่างนี้ คอร็อค ก็จะได้มันส์ไปกับวงโปรดของคุณถึง 4 วง พอหารออกมาแล้วก็ตกแค่
วงละ 1,000 บาท เท่านั้น!

ตัวอย่างที่ 2.2 (ขาแดนซ์) 11 โมงกว่าๆ ดู Buddha Bless (เวที Boom),แวะไปออกสเต็ปแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว ที่เวที Slient Disco, สี่โมง ดู Far East Movement (เวที Pow), ก่อนมาปักหลักที่ เวที Boom สักก่อน 6 โมงเย็น เพื่อรอดู  Rain, Pitbull และ Pet Shop Boys สำหรับตัวอย่างนี้ ขาแดนซ์ ก็จะได้โชว์ลีลาเท้าไฟของคุณพร้อมกับศิลปินที่ชื่นชอบถึง 5 คน เฉลี่ยแล้วตกแค่วงละ 800 บาท เท่านั้น!

8. บินไปดูเมืองนอกเสียเป็นหมื่นๆ ดูที่เมืองไทยเสียแค่ไม่กี่พัน

ถ้าลองย้อนกลับไปดูศิลปินบางคนที่เคยมีคิวมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราแบบเดี่ยวๆ ตัวอย่างเช่น PITBULL ที่ถึงแม้สุดท้ายคอนเสิร์ตจะถูกยกเลิกไปในตอนนั้น แต่ราคาบัตรที่ตั้งไว้ก็สูงถึง 2,500 บาท และเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคย เสียเงิน 2-3 พันบาท เพื่อไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินคนเดียวมาแล้ว (เช่น Jason Mraz, Rain, Scandal) รวมถึง ถ้าเกิดว่าบินไปดูเทศกาลดนตรีระดับนี้ที่ ญี่ปุ่น หรือเกาหลี รวมค่าตั๋ว+ค่าเครื่องบิน+ค่าเดินทาง+อาหาร+ที่พัก เบ็ดเสร็จแล้วเราคงต้องจ่ายเงินครั้งละหลายหมื่นบาท เพราะฉะนั้น ในเมื่อมีเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นในบ้านเรา ค่าบัตร 4,000 บาท (หรืออาจจะไม่ถึงถ้าใช้โปรโมชั่น มาเป็นแก๊ง 5 คน จ่ายคนละ 2,800 บาทเท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่น) กับศิลปินที่มีให้เลือกดูหลากหลายแนวขนาดนี้ บอกได้คำเดียวว่า คุ้มสุดๆ 

9. ลุ้นเป็น Special Fans ของศิลปินคนโปรด

นอกจากนั้น อีกหนึ่งอย่างที่พิเศษสุดๆ สำหรับ เทศกาลดนตรี Sonic Bang ก็คือ การเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบแบบ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับกิจกรรม Meet & Greet ที่จะพาคุณไปกระทบไหล่ศิลปินคนโปรดแบบ ตัวต่อตัว เพียงมีบัตร Sonic Bang คุณก็มีสิทธิ์เป็น Special Fans ทันที

อยากใกล้ชิดกับศิลปินคนไหน ลองคลิกไปดูรายละเอียดกันเลย

Sonic Bang

10. ช็อปเพลิน ไม่ต้องกลัวหิว มีที่ฝากแฟน...

นอกเหนือจากเราจะได้ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินที่เราชื่นชอบแล้ว ภายในเทศกาลดนตรี Sonic Bang ยังครบครันไปด้วยสินค้า บริการ และกิจกรรมต่างๆ ที่จัดไว้สำหรับคอดนตรีตัวจริงอย่างคุณโดยเฉพาะ ทั้ง Street Food - ที่คุณจะได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารหลากลายชนิด เพื่อเติมพลังให้มีแรงสนุกกันตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน, Star Market - เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกจากศิลปินทั้งไทยและเทศ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ซึ่งถูกรวบรวมเอาไว้มากมายในงานนี้, Indy Market - เลือกช้อปสินค้า แฮนด์เมด ไอเดียบรรเจิดที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว, Relax Zone - ใครดูคอนเสิร์ตแล้วเกิดเส้นตึง เส้นยึด ขึ้นมา ก็มีบริการนวดให้หายเมื่อย หรือถ้าใครพาแฟนมาด้วย แล้วคุณเธอเกิดเมื่อยขึ้นมา จะเอาแฟนไปนั่งฝากนวดไว้ก่อนก็ได้ ส่วนใครที่แรงยังเหลือเฟือก็ไปสนุกกันต่อ...

Sonic Bang

สุดท้าย...อยากจะย้ำกันชัดๆ อีกสักครั้งว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เทศกาลดนตรีระดับโลกแบบนี้ จะเกิดขึ้นในเมืองไทย ดังนั้น เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว อย่าพลาด! ที่จะคว้าโอกาสพิเศษสุดๆ นี่เอาไว้ หากคุณคือ คอดนตรี ตัวจริง! อย่ามัวรอช้า! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสัมผัสกับสุดยอดประสบการณ์ในเทศกาลดนตรี Sonic Bang

คลิกดูรายละเอียด เทศกาลดนตรีนานาชาติ Sonic Bang

Sonic Bang